The Astronomy

ถ้าในทุกๆการขยับของเข็มนาฬิกาที่ค่อยๆผ่านตัวเลขบนหน้าปัดตัวแล้วตัวเล่า แสดงถึงกาลเวลาที่ค่อยๆล่วงเลยไปคิดไปแล้วไม่แตกต่างอะไรกับโลกที่ค่อยหมุนไปรอบดวงอาทิตย์ จักรวาลเป็นเสมือนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ทำงานโดยไม่ได้ผ่านเครื่องจักรกลในการนับเวลา หากมีแต่เพียงการเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆของดวงอาทิตย์และโลกโดยไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วง.
ในทุกๆเวลาที่กำลังเดินไปอย่างเรื่อยๆ ในขณะที่บนพื้นโลกในช่วงศตวรรษที่10-20 มนุษย์ได้ออกเดินทาง และพัฒนาในเรื่องการเรียนรู้หลายแขนงทั้งภาพยนต์และการสำรวจ พวกเขาเรียกว่าการเดินทางของชีวิต การเดินทางของพวกเขาเดินทางผ่านเวลา การเติบโตและการเรียนรู้ ในณะที่บนอวกาศอันแสนกว้างใหญ่การเดินทางของโลกไม่ได้เดินทางผ่านเวลาแต่อย่างใดหากเพราะไม่มีใครที่จะนับเวลาบนอวกาศ แต่โลกนั้นเดินทางรอบดวงอาทิตย์โดยผ่านดวงดาวหลายล้านดวง หนึ่งในหลายล้านดวงได้เดินทางผ่านกลุ่มดาวต่างๆที่ผู้คนให้คำจำกัดความว่าราศรีนั้นเอง.
ราศรีถือเป็นเพื่อนเดินทางระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ไม่แตกต่างกับการเดินทางของมนุษย์ที่มีเพื่อนร่วมทางคือเวลาที่ผ่านไป การเปลี่ยนไปของแต่ละกลุ่มดาวเมื่อเรามองขึ้นฟ้าในแต่ละเดือน ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายว่าโลกไม่ได้หยุดพักแต่อย่างใด มันยังคงหมุนช้าๆอย่างสม่ำเสมอ.




คนในสมัยก่อนนั้นมีชีวิตประจำวันที่อาศัยการมองดาวอย่างมาก เช่น นักสำรวจจะใช้ดวงดาวในการบอกทิศทาง โดยดาวที่เรานิยมใช้ในการหาทิศ คือ ดาวเหนือ ( Polaris ) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด อยู่ในกลุ่มดาวหมีเล็ก ( Ursa minor ) ดาวเหนือจะอยู่คงที่ส่วนดาวอื่นจะโครจรไปรอบ ๆ ตามการหมุนรอบตัวเองของโลก ดังนั้นเราจึงใช้ดาวเหนือในการหาทิศ กล่าวคือ ถ้าหันหน้าไปทางดาวเหนือคือทิศเหนือด้านขวามือจะเป็นทิศตะวันออก ด้านซ้ายมือจะเป็นทิศตะวันตก และด้านหลังจะเป็นทิศใต้ ส่วนการหาทิศใต้ เราจะใช้กลุ่มดาวกางเขนใต้ในการหาทิศ คนไทยเรียกกลุ่มดาวกางเขนใต้ว่า ดาวว่าวปักเป้า โดยในฤดูร้อนจะเห็นกลุ่มดาวกางเขนใต้ในตอนดึก แต่ในฤดูฝนจะเห็นในตอนหัวค่ำ ดวงดาวล้างสุดของดาวกางเขนใต้จะชี้ไปทางทิศใต้ การสังเกตตำแหน่งดวงดาวนั้นยังมีประโยชน์อีกเช่น โหราจารย์มักจะใช้ดวงดาวในการทำทายสิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า เกษตรกรมักจะดูดวงดาวเพื่อการรู้ถึงฤดูเพาะปลูก หรือแม้แต่การเลือกปลูกพืชที่เหมาะสม ในอดีตคนไทยใช้การดูดาวเพื่อทำนายปริมาณฝนหรือเหตุการณ์ต่างๆ อีกมาก หรือแม้กระทั่งคนทั่วไปก็ยังใช้ประโยชน์จากดวงดาวในการบอกเวลาก่อนนาฬิกายังไม่ถูกคิดค้นหรือยังไม่เป็นที่แพร่หลายคนในสมัยก่อนจะดูดวงดาวเพื่อบอกเวลา เช่น ดาวหมีใหญ่ ( Ursa major ) เป็นกลุ่มดาวที่อยู่ในซีกโลกเหนือ กลุ่มดาวดังกล่าวนี้คนไทยจินตนาการเป็นรูปจระเข้ จึงเรียกว่า กลุ่มดาวจระเข้ ในตอนหัวค่ำเราจะเห็นด้านหัวของดาวจรเข้าขึ้นทางทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและเมื่อเวลา 24.00 น. ดาวกลุ่มนี้จะอยู่กลางท้องฟ้าโดยส่วนหัวจะชี้ไปทางทิศเหนือ และเมื่อใกล้สว่างส่วนหัวจะค่อย ๆ ลับขอบฟ้าไปทางทิศตะวันตก เราจึงนิยมใช้กลุ่มดาวหมีใหญ่หรือกลุ่มดาวจระเข้ในการบอกเวลา.

ภาพจำลองช่วงเวลาของราศรีต่างๆในเวลา 1 ปี

